4 บลจ.เผยลูกค้าแห่เปิดบัญชีซื้อกองทุนผ่านทีเอ็มบีคึกคัก “ยูโอบี-ซีไอเอ็มบี พรินซิเพิล-อเบอร์ดีน” ชูจุดเด่นเครือข่ายต่างประเทศปึ๊ก ช่วยจับจังหวะหาโอกาสสร้างผลตอบแทน ส่วนบลจ.ทหารไทย ชี้ดอกเบี้ยต่ำ “กองทุนธนพลัส-ธนไพบูลย์” ตอบโจทย์คนรับความเสี่ยงได้น้อย
TMB Open Architecture “กองทุนดี ยี่ห้อดัง ครบที่ทีเอ็มบี” ของทีเอ็มบี
หรือ ธนาคารทหารไทย เปิดให้บริการกลางปี 2557
เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกการลงทุนได้หลากหลาย
มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้นผ่านกองทุนของบลจ.ทั้ง 4 แห่ง
ที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรในบริการนี้ ซึ่งมีจุดเด่นและมีเครือข่ายในต่างประเทศทั่วโลก
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี
(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภายหลังจากบลจ.ยูโอบี ได้เป็นหนึ่งใน 4
บลจ.ที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตร TMB Open Architecture “กองทุนดี
ยี่ห้อดัง ครบที่ทีเอ็มบี” ของธนาคารทหารไทย (ทีเอ็มบี) โดยปี 2557
ที่ผ่านมาพบว่ามีลูกค้าใหม่มาใช้บริการลงทุนของยูโอบีผ่านทีเอ็มบีเพิ่มขึ้น 25%
ทำให้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า 60% จากปีก่อน
โดยกองทุนที่ได้รับการตอบรับอย่างดีด้วยผลการดำเนินงานโดดเด่น เช่น
กองทุนหุ้นญี่ปุ่นขนาดกลางและเล็ก (Japan Mid and Small Cap) และกองทุนลงทุนในหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ทั่วโลก
(Global Health Care)
อย่างไรก็ตามบลจ.ยูโอบีมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ลงทุนผ่านทีเอ็มบี
นอกจากความเชี่ยวชาญในการจับจังหวะลงทุนหุ้นไทยในระยะกลางและระยะยาวแล้ว
ยังเป็นบริษัทในเครือของ UOB ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการลงทุนชั้นนำของสิงคโปร์และได้รับความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรระดับโลก
จึงจะนำเสนอกองทุนใหม่ๆ
ที่สร้างโอกาสรับผลตอบแทนให้นักลงทุน ในขณะที่การคัดเลือกกองทุนของทาง
ทีเอ็มบีมีเกณฑ์ตามมาตรฐานสากล เช่น กองทุนจะต้องมีนโยบายการลงทุนที่ชัดเจน
มีผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญในสินทรัพย์นั้นๆ
โดยเฉพาะผ่านแบบจำลองความเสี่ยงที่เหมาะสม
มีกระบวนการตัดสินใจการลงทุนที่น่าเชื่อถือและมีโอกาสในการทำกำไรที่ดีให้ผู้ลงทุน
เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทีเอ็มบีคัดเลือกกองทุนดีๆ มานำเสนอให้แก่นักลงทุน
นายจุมพล สายมาลา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เปิดเผยว่า
ได้เริ่มเปิดขายกองทุนกับทีเอ็มบีในปี 2557
ลูกค้าให้ความสนใจลงทุนผ่านทีเอ็มบีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ 31 พ.ค. 2558
จำนวนลูกค้าใหม่โตขึ้น 16% จากปีก่อน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจมาก
จากจุดเด่นของบลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล
ที่เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนและเข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภททั่วโลกผ่านเครือข่าย
Principal Financial Investors ที่เป็นสถาบันการเงินระดับโลก ทำให้มีข้อมูลการลงทุนในภาพกว้างและสามารถบริหารเงินลงทุนให้ลูกค้าที่ลงทุนผ่านทีเอ็มบีได้รับผลตอบแทนอย่างเหมาะสม
สำหรับกองทุนของบลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลที่นำเสนอ เช่น
กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ผลตอบแทนสูงภูมิภาคยุโรป (Europe High Yield
Bond) กองทุนหุ้นลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ยกเว้นญี่ปุ่น (Asia
Pacific Dynamic Income ex-Japan) กองทุนหุ้นลงทุนในหุ้นขนาดเล็กทั่วโลก (Global
Small Cap Equity Fund) และกองทุนผสมที่ลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ในประเทศ
(Balanced Income Fund) ซึ่งทำให้ทีเอ็มบีสามารถเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม
ท่ามกลางสภาวการณ์ลงทุนในปีนี้ยังมีปัจจัยที่มีความไม่แน่นอนสูง แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ
เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น การมีมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE จากภูมิภาคยุโรปและญี่ปุ่นทำให้มีสภาพคล่องทั่วโลก
แต่ความผันผวนของราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำ
จึงมองว่าการลงทุนในปีนี้จะมีความผันผวนมาก
นายกรวุฒิ ลีนะบรรจง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน เปิดเผยว่า
ปัจจุบันบลจ.อเบอร์ดีนมีกองทุนที่ขายผ่านทีเอ็มบี ได้แก่ กองทุนหุ้นระยะยาว (LTF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
(RMF) กองทุนหุ้นไทย และกองทุนหุ้นอินเดีย
ซึ่งมีลูกค้าทีเอ็มบีให้ความสนใจลงทุนกองทุน LTF และ RMF
จำนวนมาก
ซึ่งทีเอ็มบีถือเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งแรกที่ให้บริการนี้แก่นักลงทุนทุกกลุ่ม
ทั้งรายย่อยและรายใหญ่ เลือกลงทุนในกองทุนดีๆ ได้อย่างเท่าเทียมกัน จึงเป็นโอกาสและทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนทั่วไปที่จะซื้อขายกองทุนผ่านทีเอ็มบี
ซึ่งมีสาขาให้บริการกว่า 450 สาขา รวมถึงสาขาในอาคารสำนักงาน และศูนย์การค้า
สำหรับปีนี้การเติบโตของเงินลงทุนของลูกค้าผ่านทีเอ็มบีเพิ่มขึ้นกว่า 60% จากปีก่อน
โดยเชื่อว่าด้วยปรัชญาการลงทุนในตลาดหุ้นของบลจ.อเบอร์ดีนด้วยการคัดสรรหุ้นคุณภาพที่เน้นคุณค่าระยะยาว
ด้วยมาตรฐานการลงทุนระดับโลกจากกลุ่มอเบอร์ดีนที่เข้าใจสภาพตลาดอย่างดีจะเป็นอีกทางเลือกให้แก่ลูกค้าของทีเอ็มบีได้
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล
กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย เปิดเผยว่า ในฐานะที่เป็น
บลจ.ที่อยู่ทีเอ็มบีมานาน มองว่า TMB Open Architecture เป็นโครงการที่ดี
เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ลงทุนในกองทุนคุณภาพจากหลายบลจ.
ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้มีลูกค้าสนใจมาใช้บริการกับทีเอ็มบีมากขึ้นและส่งผลดีกับ
บลจ.ด้วยเช่นกัน เห็นได้จากปีที่ผ่านมาลูกค้าทีเอ็มบีมียอดเงินลงทุนกับบลจ.ทหารไทยเพิ่มขึ้นถึง
25%
ปัจจุบันบลจ.ทหารไทย มีกองทุนที่โดดเด่น 4 ประเภท
ได้แก่ 1) กองทุนตราสารหนี้ 2) กองทุนหุ้นไทยที่มีการลงทุนแบบ Passive หรือการบริหารในเชิงรับ
3) กองทุนผสม และ 4) กองทุนต่างประเทศ (FIF) โดยเฉพาะกองทุน
FIF ซึ่งบลจ.ได้ร่วมกับที่ปรึกษาด้านการลงทุนระดับโลก อย่าง Mercer
คัดสรรกองทุนต่างประเทศที่มีผลดำเนินงานโดดเด่น
ทั้งแบบ Active และ Passive ช่วยให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีและช่วยกระจายความเสี่ยง
เช่น ตราสารหนี้ทั่วโลก หุ้นทั่วโลก หุ้นสหรัฐฯ หุ้นยุโรป หุ้นญี่ปุ่น หุ้นจีน
หุ้นเอเชีย Multi Asset ทองคำและน้ำมัน
สำหรับกองทุนตราสารหนี้นั้น กองทุนธนพลัสและธนไพบูลย์เติบโตต่อเนื่อง
โดยลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้น้อยแบ่งเงินจากบัญชีเงินฝากมาลงทุนมากขึ้นจนขณะนี้กองทุนธนพลัสมีขนาดใหญ่กว่า
90,000 ล้านบาท ส่วนกองทุนหุ้นไทยแบบ Index Fund (หรือ Passive
Fund) เช่น SET50 มีความโดดเด่นเรื่องขนาดกองทุนที่ใหญ่
ต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับกองที่บริหารแบบ Active หรือเชิงรุกและดัชนีเป็นที่รู้จักของนักลงทุน
นอกจากนี้ บลจ.ได้นำการบริหารกองทุนหุ้นแบบ Passive มาผสมกับกองทุนตราสารหนี้ในสัดส่วนต่างกันสามแบบ
ชื่อว่า SML หรือการจัดทัพลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนและความเสี่ยงที่เหมาะกับนักลงทุนที่มีระยะลงทุนต่างกัน
เช่น กอง S มีสัดส่วนหุ้นเพียง 15% แต่สามารถให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 5% ต่อปี
ทำให้นักลงทุนที่มีระยะเวลาลงทุนสั้นหรือยังไม่เคยลงทุนในหุ้นแต่อยากเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุนให้ความสนใจ
ที่มา : www.tmbbank.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น